รีวิวหนัง Fast And Furious Hobbs And Shaw เน้นมันส์ไว้ก่อน เนื้อเรื่องค่อยว่ากัน
รีวิวหนัง Fast And Furious Hobbs And Shaw นี่เป็นหนังที่ดึงตัวละครจากจักรวาล Fast And Furious หนังภาคหลักนำมาต่อยอดในทิศทางของตัวเอง ซึ่งภาคหลักหลังๆ ถ้าจะพูดแบบภาษาคนทั่วไปก็คือเนื้อหาเริ่มออกทะเลไปไกลแล้ว แต่ถึงแม้เนื้อหาของหนังจะออกทะเลไปบ้างแต่ทางด้านรายได้ก็ยังสามารถทำได้อยู่ในระดับดีงามอยู่ จึงไม่แป ลกใจที่ทางสตูดิโอจะอนุมัติให้สร้างหนังออกมาเรื่อย ๆ แม้ว่ามันจะกำหนดจบที่หนังภาค 10 ตามที่มีข่าวออกมา แต่สำหรับ Fast And Furious Hobbs And Shaw ก็เหมือนตัวตายตัวแทนจากหนังภาคหลัก และก็ถือว่าเป็นการนำมาต่อยอดในเรื่องของความเล่นใหญ่ของหนังภาคหลักให้หลุดคอนเซ็ปต์หนังแข่งรถ โจรรถซิ่ง ไปเป็นอะไรที่มันเกือบจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่แล้ว เพราะว่านับตั้งแต่เริ่มเรื่องมา หนังก็โฟกัสไปที่ภารกิจสายลับกู้โลกดีๆ นี้เอง แต่หนังยังเต็มไปได้การนำเสนอพวกที่มีพลังเหนือมนุษย์ให้กับพวกองค์กรวายร้ายใหม่ ที่มีเทคโนโลยีและวิทยาการสุดล้ำเรียกได้ว่าอยู่ในระดับ Avengers เลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่มอเตอร์ไซด์สุดล้ำ ที่จะทำให้เห็นบางส่วน ลากยาวไปจนถึง Brixton ผู้ร้ายทรงพลังอาจจะเท่าระดับแบล็คแพนเธอร์หรือกัปตันอเมริกาก็ว่าได้ มีทั่งชุดและเทคโนโลยีในการรบสุดล้ำจึงก่อให้เกิดตัวร้ายที่มีชื่อว่า ( แบล็คซูเปอร์แมน )
Fast And Furious Hobbs And Shaw เมื่อหนังบอกความเป็นตัวเองชัดขนาดนี้ตั้งแต่แรกเริ่มก็เปิดตัวอย่างหนังให้ได้เห็นถึงความเล่นใหญ่เล่นเวอร์สุด ๆ ก็เลยเลือกเดินไปในทิศทางเดียวกับหนังแอ็กชั่นสายลับที่มีเกลื่อนกลาดในหนังยุคปัจจุบัน บทก็มีไว้แค่พอได้รับรู้ว่าหนังจะเล่าอะไร เรียงลำดับเนื้อหน้า 1 2 3 แต่ไปโฟกัสในเรื่องการทำรีเอทฉาก แอ็กชั่นใหญ่ๆ เว่อร์ๆ มีภารกิจคลาสเดียวกับมิชั่นอิมพอสซิเบิ้ลเข้ามาให้แก้ ดูๆไปก็คล้ายกานำหนังสายลับมายำรวมเป็นรสชาติที่จบในจานเดียว จากหนังแข่งรถ สู่ หนังสายลับถล่มโลกแบบเต็มตัว แน่นอนชัดเจนว่าทางผู้สร้างเขาก็ไม่ได้แคร์ว่าบทจะออกทะเลหรือออกนอกโลกไปไกลแค่ไหน หากถามหาความสุข ความมันส์ ก็กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าหนังเรื่องนี้ มีให้คุณแบบเต็มอิ่มแน่นอน ในเรื่องแอ็กชั่นเล่นใหญ่ เน้นมันส์ไปสุดทาง แต่หากในอีกมุมมองหนึ่งก็แอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่หนังไม่ยอมจบลงดี ๆ ในแบบซีรีส์หลัก แต่ก็ยังดีที่ในหนังภาคนี้ยังมีการนำเสนอถึงครอบครัวในอดีตของทุกคนเพิ่มเติมมา ซึ่งก็เป็นการเล่าให้อยู่ใน ธีมครอบครัว ซึ่งเป็นธีมหลักของหนัง เพื่อที่จะไม่ให้ดูแปลก หรือ แตกแยก ไปจากหนังภาคหลัก และมันยังช่วยให้คนดูได้รับรู้ ถึงกลิ่นอายฉบับดั้งเดิมอยู่บ้าง
วาเนสซา เคอร์บี้ ในบทบาทน้องสาวของ Shaw ที่ได้รับบทที่ดูเหมาะสมกับตัวเธอมาก ฉากแอ็คชั่น เซ็กซี่ ของเธอ ที่สามารถเล่นได้อย่างสมจริงและดูไม่ผิดแปลกหรือขัดเขินเลย ในส่วนของ Hobbs และ Shaw ก็ดูมีความที่เข้าขาไปดูกันได้อย่างลงตัว สามารถสร้างและแต่งเติมเสริมส่วนต่างๆของหนังได้อย่างลงตัว ก็ต้องมาค่อยตามดูว่า Fast 9 ที่ฉายในปี 2021 จะมีการนำ Hobbs และ Shaw กลับไปเล่นในทิศทางไหนและจับเขาทั้งสองคน ไปเชื่อมต่อจักรวาลกันแบบไหน เพราะถ้าหากหนังเลือกเดินไปสองเรื่องแบบนี้ ไทม์ไลน์อาจจะเกิดการสบสนได้แน่นอนว่าใครอยู่ตรงไหน อะไรยังไง ของแต่ละไทม์ไลน์ แฟนหนังอย่างเราก็ต้องรอและติดตามกันต่อไป
ส่วนตัวร้ายอย่าง Brixton ผู้ร้ายใหม่ในหนังเรื่องนี้ ก็นับว่าเป็นตัวที่มีส่วนสำคัญที่ได้แสดงและโชว์ให้เห็นถึงฉากแอ็คชั่น หรือ การต่อสู้ด้วยพลังวิเศษสุดล้ำ ทุกครั้งที่ออกมาในเรื่อง คนดูเองก็คงจะตื่นตาตื่นใจไปกับความสามารถในการต่อสู้ของเขาแน่นอน ซึ่งได้การตัดต่อ หรือ งานด้านเทคนิคต่างๆ หนังก็สามารถทำออกมาได้ดี แต่โดยร่วมเนื้อเรื่องก็ยังสามารถหาติดเชื่อมโยงกับหนังภาคหลักได้ดี
ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าตัวหนังภาคหลักและภาคแยกนี้จะเดินหน้าไปอย่างไรบ้าง คนดูอย่างเราก็คงไม่มั่นใจในโอกาสที่จะได้รับชม Fast And Furious เป็นโจรนักซิ่งช่วยตำรวจแบบดั้งเดิมกลับมาแน่ ๆ ตราบใดที่รายได้ทางตัวหนังยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทีมงานและผู้สร้างก็ไม่หยุดที่สร้างสรรค์ผลงานเล่นใหญ่เล่นเว่อร์ขึ้นมาอีกเรื่อยๆ แน่นอน
จุดเด่น
*มีฉากที่ได้เห็นจุดเด่นของตัวละครสำคัญๆของหนังเยอะ
*ลูกเล่นที่หลากหลายในการนำเสนอฉากแอ็กชั่น
จุดด้อย
*เนื้อหาหรือเรื่องราวแทบจะไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับหนังเลย
*เนื้อเรื่องเดินเรื่องเรียบๆง่ายๆ เน้นแอ็กชั่นเป็นจุดขายหลักของตัวหนัง
รับชมตัวอย่างหนัง : Fast And Furious Hobbs And Shaw