รีวิวหนัง ภาพยนตร์ | Happy Old Year ฮาวทูทิ้ง
รีวิวหนัง ภาพยนตร์ | Happy Old Year ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
“Happy old Year” เป็น ภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก-ดราม่า ออกฉายวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เขียนบท อำนวยการสร้าง และกำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ นำแสดงโดย ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, ษริกา สารทศิลป์ศุภา, อาภาศิริ จันทรัศมี, ถิรวัฒน์ โงสว่าง และ พัดชา กิจชัยเจริญ ผลิตโดย เวรี่ แซด พิคเจอร์ส และ แฮปปี้ เอนดิ้ง ฟิล์ม จัดจำหน่ายโดย GDH มีเพลงประกอบภาพยนตร์คือ “ทิ้งแต่เก็บ” ร้องโดย เดอะทอยส์ ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “จีน” (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) ที่ต้องการเคลียร์บ้านเพื่อรีโนเวต แต่ก็มาเจอบางอย่างที่เป็นของ “เอ็ม” แฟนเก่าของเธอ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) โดยทำรายได้ 57 ล้านบาท
“ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” เป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ของ เต๋อ (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์) นำแสดงโดย ออกแบบ (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) และ ซันนี่ (สุวรรณเมธานนท์) ว่าด้วยเรื่องราวของ “จีน” (ออกแบบ ชุติมณฑน์) ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก และต้องการจะจัดระเบียบบ้านที่รกรุงรังระดับสิบ พยายามจะเคลียร์ของใส่ถุงดำ และทำการรีโนเวตบ้านให้กลายเป็นสไตล์มินิมอลแบบที่เธอต้องการ ทว่าระหว่างที่กำลัง “จัดบ้าน” เธอกลับไปเจอของบางอย่างที่ทำให้หวนนึกถึงแฟนเก่าอย่าง “เอ็ม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์)
เรื่องย่อ Happy Old Year
เราทุกคนต่างผูกพันกับสิ่งรอบตัวที่อยู่กับเรามาเป็นเวลานานไม่ว่าจะเป็นข้าวของ สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่คนรอบข้างก็ตาม และเมื่อเราผูกพันกับมันเวลาที่เราจะต้องทิ้งแน่นอนว่ามันย่อมเกิดความรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ อย่างแน่นอน สำหรับหลายคนแล้วการทิ้งบางสิ่งบางอย่างไปจนกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากทั้งที่ควรจะทิ้งมันมาตั้งนานแล้ว หากคุณเป็นคนที่ประสบปัญหาดังกล่าวและขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ภาพยนตร์แนวอินดี้ดราม่าจากค่ายดังอย่าง GDH ที่ไม่ได้มาในรูปแบบของภาพยนตร์ แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ฟีลกู๊ดอีกต่อไป ตลอดระยะเวลาของภาพยนตร์ 1 ชั่วโมง 53 นาที
เต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่าและความรักโรแมนติกที่ทำให้เรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้โฟกัสเพียงแค่เรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เท่านั้น แต่มันยังพูดถึงเรื่องราวของสิ่งของต่างๆ ที่เราทิ้งไม่ลงเนื่องจากเรามีความทรงจำที่เชื่อมโยงกับมันอยู่ ความโดดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็คือตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์เป็นอย่างมาก เป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน มันทำให้เรื่องราวมีความสมเหตุสมผลแม้ว่าบางครั้งมันจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดหรือไม่เข้าใจไปบ้างก็ตาม แต่เมื่อรับชมจบแล้วมาพิจารณาให้ดีเราจะพบว่าบางครั้งตัวเราเองก็เป็นเหมือนกับตัวละครในภาพยนตร์เช่นเดียวกัน
ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กนักเรียนนอกที่เดินทางกลับมาอยู่กับครอบครัวอย่าง “จีน” ในบ้านของเธอนั้นประกอบไปด้วยพี่ชายอย่าง “เจย์” และแม่ที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงเรียนสอนดนตรีและยังเป็นร้านรับซ่อมเครื่องดนตรีมาก่อน แต่เจ้าของกิจการอย่างพ่อได้จากไปมีครอบครัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยมานานแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครคิดจะทิ้งข้าวของภายในบ้านที่เต็มไปหมดแต่อย่างใด ด้วยความที่จีนนั้นเป็นนักออกแบบสไตล์มินิมอลทำให้เธอนั้นต้องการที่จะเปลี่ยนบ้านของเธอให้เป็นที่ทำงานด้วย
แต่การจะเปลี่ยนบ้านที่เต็มไปด้วยข้าวของมากมายให้กลายเป็นบ้านสไตล์มินิมอลนั้นไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย เริ่มจากเธอจะต้องจัดเก็บข้าวของเอาไปทิ้ง แต่ของแต่ละอย่างที่เธอพบเจอนั้นล้วนแล้วแต่มีอดีตเกี่ยวกับคนที่เคยผ่านเข้ามาหรือยังอยู่ในชีวิตของพวกเขาทั้งสิ้น โดยเฉพาะกล้องฟิล์มและฟิล์มของแฟนเก่าจีนอย่าง “เอ็ม” เธอบอกเลิกเขาตอนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศและทั้งสองก็ไม่ได้พูดคุยกันอีก เธอตัดสินใจที่จะเอาของไปคืนให้กับแฟนเก่าและต้องการที่จะขอโทษเพื่อลบล้างความผิดในใจ แต่มันกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงแทน
จากเนื้อเรื่อง Happy Old Year
“ฮาวทูทิ้ง” ยังพูดถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวจีนอีกมากผ่าน “ของเก่า” ที่ทำหน้าที่ตัวแทนเรื่องราวในอดีตมากมาย ทั้งเรื่องของพ่อที่ทิ้งไป ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเพื่อนอีกหลาย ๆ คน แต่ละเรื่องก็ทำหน้าที่ประหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ต่อกันเป็นภาพที่เด่นชัดของจีน ให้เรารู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น ซึ่งจีนเองก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเช่นกัน จากคำตอบโต้ของเอ็มและเพื่อนหลาย ๆ คน ที่ตำหนิเธอกลับมา ทำให้ “จีน” เป็นนางเอกหนังที่มีความเป็นปุถุชนมากสุดคนหนึ่งบนจอหนังไทย ที่ไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อม มีจุดที่แข็งขณะเดียวกันก็มีจุดที่อ่อนไหวอีกมาก ที่ทำให้เธอไม่สามารถตัดขาดความทรงจำเก่า ๆ ไปได้อย่างที่ตัวเองพูด แล้วทำให้การจัดบ้านของเธอต้องพัวพันไปกับอีกหลาย ๆ ชีวิต
ว่าด้วยปฏิบัติการทิ้งของเก่าของจีน ซึ่งผ่านไปเกือบชั่วโมงกว่า “เอ็ม” จะโผล่เข้ามาในเรื่อง ก็เพิ่มประเด็นหนักหน่วงเข้ามาอีก เพราะจีนเข้าไปในฐานะคนเก่าของเอ็ม ในวันที่เอ็มใช้ชีวิตคู่กับมี่แล้ว การแทรกประเด็นยิบย่อยรอบตัวจีนเข้ามา ทำให้หนังไม่สามารถลงลึกในแต่ละประเด็นได้ครบถ้วน บางประเด็นก็ถูกทิ้งค้างให้เป็นข้อสงสัย อย่างเรื่องการจากไปของพ่อ ความบาดหมางของจีนกับเพื่อนสาวที่เธอเอาดับเบิ้ลเบสไปคืน
คนที่ควรได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดใน “ฮาวทูทิ้ง” ก็คือ ออกแบบ (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) ในบท “จีน” ที่เห็นได้ชัดถึงการก้าวกระโดดของฝีมือการแสดง เป็นบทที่น่าเครียดมาก ไม่มีฉากไหนที่จะดูสบาย ๆ เลย เพราะเต๋อก็เลือกเล่นยาก เพราะหลาย ๆ ฉากเต๋อก็เลือกที่จะให้นักแสดงสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านสายตาและสีหน้ามากกว่าคำพูด ฉากดราม่าเยอะมาก มีทั้งที่ต้องระเบิดอารมณ์ใส่กัน และแบบที่ยืนจ้องหน้ากันเงียบ ๆ แต่ต้องสื่ออารมณ์ให้ถึงคนดูให้ได้ ซึ่งออกแบบก็เอาอยู่ในทุกฉาก แล้วเล่นแบบไม่ห่วงสวยเลย ซันนี่ ในบท ”เอ็ม”
การเลือก “อาภาศิริ นิติพน” มาเป็นแม่ของจีน และ “ถิรวัฒน์ โงสว่าง” รับบท “เจย์” มาเป็นพี่ชายของจีน ทั้งสามคนมีโครงหน้าเหลี่ยม กรามชัดเจนมาก ดูแล้วเชื่อว่าเนี่ยแม่ลูก กัน “ษริกา สารทศิลป์ศุภา” ในบท “มี่” การรีโนเวตบ้านที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราว ไม่ใช่แค่หยิบเรื่องการทิ้งของเก่า แล้ว “Move On” มาเป็นประเด็นตั้งต้น แต่รีโนเวตให้ดูจริง จากบ้านเก่า ๆ โทรม ๆ ทำออกมาแล้วสวย โล่ง สว่าง น่าอยู่
“ของเก่า” ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมนุษย์เราทุกคน ที่หลายคนมักจะผูกพันแล้วเก็บรักษามันไว้ จะด้วยเหตุผลมากมายทั้งความเสียดาย เป็นตัวแทนความทรงจำดี ๆ “ของเก่า” มันอาจจะเป็นของไร้ค่าสำหรับบางคน แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นของมีค่าที่ประเมินค่าไม่ได้กับอีกคน หรือมองในอีกมุมที่จีนตีความว่าของเก่าเปรียบเสมือนโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งชีวิต ถ้าปล่อยวางตัดทิ้งได้ ชีวิตก็จะ “Move On” ไปข้างหน้าได้ เช่นเดียวกับที่เธอทำกับเอ็ม ซึ่งการตัดทิ้ง หรือปล่อยวาง บางครั้งก็มีเส้นบาง ๆ คั่นไว้กับ “ความเห็นแก่ตัว” อย่างที่เพื่อน ๆ และเอ็มต่างก็ใช้คำนี้มาตำหนิจีน
“ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” รับบท “เอ็ม” : ผู้ชายที่ยังคงเก็บสิ่งของของจีน อดีตแฟน และเก็บความรู้สึกต่างๆ ที่มีต่อเธอไว้ไม่เคยคิดที่จะทิ้ง คนที่มุ่งหน้าจะ “Move On” เพื่อหนีความรู้สึกของตัวเอง ของทุกสิ่งที่อยู่ในบ้านของ ยังคงถูกจัดวางไว้ใกล้เคียงกับสามปีก่อน สังเกตุได้จากสายตาของ “จีน” ที่มองไปรอบๆ บ้าน เหมือนกับว่าความทรงจำทั้งหมดยังถูกจัดวางไว้เหมือนเดิม
“ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา” รับบท “มี่” : ผู้หญิงที่จะมีคำพูดติดปากว่า “I understand” คำพูดที่ขัดกับสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด ดูภายนอกอาจจะมองว่าเข้าใจจริงๆ เเต่ลึกเเล้ว ซ่อนอะไรบางอย่างไว้ข้างใน ฉากสำคัญของ “มี่” คงเป็น การคืนเสื้อให้กับ “จีน” ในฉากท้ายๆ ของภาพยนตร์ เป็นเสื้อตัวที่ พี่เอ็มเองก็ไม่ได้บอกว่าของใคร เสื้อตัวนี้อาจเป็นการสะท้อนถึงตัวตนที่ยังมีอยู่ของ “จีน” ในตอนที่ทิ้ง “พี่เอ็ม” ไป
“อุ๋ม อาภาศิริ นิติพน” รับบท “แม่ของจีนและเจย์” : ผู้หญิงที่ภาพนอกดูแข็งกระด้าง เเต่ข้างในความรู้สึกคือไม่ไหวเเล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเเม่สะท้อนผ่านเพลง “กุหลาบแดง” เพลงที่แสดงถึงความรอคอย การอ้อนวอนให้คนนั้นกลับมา และคนๆ นั้นก็คือสามีที่ทิ้งครอบครัวนี้ไป ภายใต้สิ่งต่างๆ ที่คอยย้ำเตือนถึงภาพเก่าของครอบครัวไม่สามารถทำให้เเม่ “Move On” ไปไหนได้ สิ่งของต่างๆ ยังถูกจัดเรียงไว้อยู่ที่เดิม และสิ่งที่จะทำให้ความรู้สึกนั้นจางหายไปได้ เเต่ไม่สามารถลืมไปได้ก็ คือ การทิ้งของเหล่านั้นซะ และในฉากที่ “จีน” หลอกเเม่ให้ไปเที่ยวของนอกเพื่อจะขายเปียโนของพ่อนั้น จริงๆเเล้วเเม่ก็รู้นะว่าลูกจะทำอะไร เพราะตัวเเม่เองก็อยากจะพยายามที่จะเดินออกจะเรื่องนี้เหมือนกัน
“หมี ถิรวัฒน์ โงสว่าง” รับบท “เจย์” : ตัวละครที่เหมือนจะไม่มีอะไร คอยรับฟังความคิดเห็นของแม่และน้องสาวที่เอาเเต่ใจอย่างจีน แต่จริงๆ เเล้วตัวละครนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมาก เเน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าเพียงเเค่ความรักของคนสองคนเเต่มีสถาบันครอบครัวเข้ามาเกี่ยวด้วย “เจย์” คือตัวเเทนของการเจรจาที่ดี ถ้าเปลี่ยนบท “เจย์” ในฐานะพี่ชายที่มีอำนาจ เรื่องก็จะเป็นอีกเเบบ แต่ในเรื่องนี้ “เจย์” คือคนที่ยอมทุกอย่างเพื่อจะทำให้ชีวิตของครอบครัวหลุดพ้นจากสิ่งเก่าที่เคยเจอ
“แพรว พัดชา กิจชัยเจริญ” รับบท “พิงค์” : เป็นอีกคนที่เชื่อในความมินิมอล เเต่มีความรู้สึกกับสิ่งของต่าง ๆ เพราะยังเชื่อว่าทุกสิ่งที่ให้มักมีความทรงจำและมีค่าอยู่เสมอ เมื่อเวลาผ่านไปเเค่ไหนของสำคัญก็คือสิ่งสำคัญ คนนี้เองที่คอยเตือนสติ “จีน” เรื่องการทิ้งของที่มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบ ๆ ตัว และก็เป็นคนเดียวกันที่ทำให้บ้านที่เต็มไปด้วยข้าวของและเรื่องราว กลายเป็นบ้างโล่งๆ สมใจปรารถนาของ “จีน”
- “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” หนังดีที่ไม่ควรพลาด เป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวในชีวิตที่ใกล้ตัวเราทุกคน ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ที่ดี ชวนให้เราต้องมาย้อนคิดถึง “ของเก่า” ในบ้านเราเองได้เช่นกัน แล้วการเลือกวันฉายในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2562 ก็เหมาะเจาะเสียยิ่งกับคอนเซ็ปต์ของหนัง ที่คนเราจะสามารถตัดเยื่อใย ทิ้งของเก่า แล้ว “Move On” ไปกับชีวิตในปี 2563 กันได้หรือไม่ คะแนน 7/10
รับชมตัวอย่างหนัง : ฮาวทูทิ้ง
ติดตามข่าวสารหนังเพิ่มเติม : รีวิวหนัง