รีวิวหนัง รวมพลังกลับเอาท์แบ็ค Back to the Outback
เรื่องย่อ : รวมพลังกลับเอาท์แบ็ค Back to the Outback
บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสัตว์ที่ถูกนำมาเลี้ยงในสวนสัตว์กลางเมืองซิดนีย์ (Australian Wildlife Park) ตั้งแต่ยังเป็นเด็กแบเบาะ ประกอบไปด้วย “แมดดี้” งูพิษไทปัน , “แฟรงก์” แมงมุมพิษร้ายแรง, “โซอี้” กิ้งก่าหนาม , และ “ไนเจล” แมงป่องมรณะ ทั้งสี่เป็นสัตว์ป่ามีพิษร้ายแรงของออสเตรเลีย มีถิ่นฐานเดิมอยู่ใน “เอาท์แบ็ค” ดินแดนทะเลทรายและแห้งแล้งใจกลางประเทศ รูปลักษณ์ภายนอกของพวกมันดูน่าเกลียดน่ากลัว บวกกับเป็นสัตว์ที่มีพิษ ทำให้ผู้คนหวาดผวา และเรียกพวกมันว่า “สัตว์ร้าย” ต่างกับ “พริตตี้บอย” หมีโคอาล่าสัตว์ประจำชาติออสเตรเลียอีกชนิดหนึ่ง ที่มีรูปร่างน่ารัก ขนปุกปุยนุ่ม ทำให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และได้รับความเอ็นดูจากนักท่องเที่ยวมากมาย สัตว์ร้ายทั้งหลายต่างรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ อยากหนีออกจากสวนสัตว์ ไปตามหาดินแดนเอาท์แบ็คเพื่อตามหาครอบครัว และสัตว์ประเภทเดียวกันที่อาศัยอยู่ที่นั้น ทั้งสี่จึงรวมตัวกันหนีออกจากสวนสัตว์ แต่บังเอิญก่อนจะหนีออกไปได้ โคอาล่าพริตตี้บอยพยายามขัดขวาง สุดท้ายเลยจับพลัดจับผลูหนีออกมาด้วยกัน ทั้ง 5 จึงร่วมกันผจญภัยไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นเคยเพื่อเดินทางไปยังเอาท์แบ็ค และต้องหลบหนีการจับกุมของแชซ เจ้าหน้าที่สุดเฮี้ยบจากสวนสัตว์ สุดท้ายแล้วกลุ่มเพื่อนซี้และหมีโคอาล่าจะสามารถไปถึงเอาท์แบ็คได้หรือไม่ เชิญไปรับชมกันต่อทาง Netflix มีพากย์ไทยด้วยนะคะ และสามารถรับชมผ่านกล่องทรูไอดีทีวีได้ด้วย
Back to the Outback มีตัวละครเยอะมากแค่กลุ่มเพื่อนสัตว์ก็ปาไป 5 คนแย้ว แต่ละตัวก็ได้นักแสดงฝีมือคุณภาพที่ส่วนใหญ่เป็นชาวออสเตรเลียมาพากย์เสียงให้ บวกกับบทสุดปังที่ออกแบบให้ตัวละครแต่ละตัวมีความน่ารัก เป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง ทำให้ดูสนุก หัวเราะ ยิ้มตามแบบจัดเต็มกันไปเลยค่ะ ไปดูว่ามีเสียงใครบ้าง
แมดดี้ หรือเมดูซ่า งูไทปันแสนใจดี สีฟ้า ไม่มีงูตัวไหนที่ร้ายแรงกว่านี้ พิษเพียงหยดเดียวสามารถฆ่าคนได้เป็นร้อย ๆ คน ภายใน 10 วินาที แชซนำมาเลี้ยงตั้งแต่เพิ่งออกจากไข่ ทำให้ไม่ได้อยู่ในเอาท์แบ็ค ถึงจะเป็นงูพิษแต่มีนิสัยรักเพื่อนพ้อง โอบอ้อมอารี กล้าหาญ พากย์เสียงโดย ไอลา ฟิชเชอร์ นักแสดงสาวชาวออสเตรเลีย หลายคนน่าจะจำเธอได้จากบท แม็คเคนซีในเรื่อง Godmothered ภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องเกี่ยวกับคริสต์มาส แมดดี้เป็นตัวการ์ตูนที่มีความน่ารัก ตาสวย ซึ่งไอลาก็พากย์เสียงออกมาได้น่ารักเข้ากับตัวละครเลยล่ะ
พริตตี้บอย หมีโคล่าผู้หลงตัวเอง หมีแสนน่ารัก ขนปุกปุยนุ่มนิ่มน่ากอด เป็นที่รักของทุกคน มีกล้องวงจรปิดถ่ายชีวิตเขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่แท้จริงแล้วเป็นคนตื้นเขิน สนใจแต่ตัวเอง ไม่ค่อยมีน้ำใจ จนได้มาเจอกับแมดดี้ ทำให้คิดถึงคนอื่นมากขึ้น พากย์เสียงโดย ทิม มิชชิน นักแสดงตลก นักดนตรีและนักแต่งเพลงชาวออสเตรเลีย ที่ในเรื่องนี้นอกจากพากย์เสียงแล้วเขายังแต่งเพลงที่แมดดี้ร้องก่อนนอน Maddie’s Lullaby และเพลง Beautiful Ugly อีกด้วย
โซอี้ กิ้งก่าหนามแสนฉลาด เอาตัวรอดเก่ง พากย์เสียงโดย มิแรนดา แทปเซลล์ นักแสดงชาวออสเตรเลียอีกหนึ่งคน
ไนเจล แมงป่องมรณะผู้ขี้ขลาด ผู้กลัวสีเบจ พากย์เสียงโดย แองกัส อิมรี นักแสดงชาวอังกฤษ จากเรื่อง The Crown ในบทเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดลูกชายคนสุดท้ายของพระราชินี
นอกจากนี้ยังได้สาวไคลี มิน็อก นักร้องชื่อดังชาวออสเตรเลีย มาร่วม Cameo พากย์เสียง สั้น ๆ เป็นหมูป่า ซูซาน ผู้รักสวยรักงามและกลัวเสียงปืน แฮร่! จะเรียกว่าภาพยนตร์ Back to the Outback รวมศิลปินชื่อดังชาวออสเตรเลียไว้มากมายเลยก็ว่าได้
การผจญภัย มิตรภาพ ในประเทศออสเตรเลีย
Back to the Outback (2021) เป็นหนังอนิเมชั่นผลงานของผู้กำกับ แคลร์ ไนท์ (ผู้ลำดับภาพเรื่อง The Lego Movie 2 -2019) และแฮร์รี คริปส์ ( นักเขียนบทจาก The Dry 2020) ที่คนหลังพ่วงตำแหน่งเขียนบทร่วมกับ เกรกอรี เลสซอนส์ ตัวเนื้อเรื่องไม่ได้แปลกใหม่ซะทั้งหมด มีความคล้ายคลึงกับหนังมาดากาสก้า 2005 (เพื่อนสัตว์ป่าแอฟริกาที่หนีออกจากสวนสัตว์นิวยอร์กแล้วดันไปลงเอยที่มาดากาสก้า) และหนังซาฮาร่า 2017 (งูผจญภัยในทะเลทราย) แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด แตกต่างตรงที่หนังเล่าเรื่องประเทศออสเตรเลีย ทำให้คนดูได้รู้จักประเทศนี้มากขึ้น ผ่านการผจญภัยที่แสนสนุก มัน ทำลุ้นตามไปด้วย เป็นการผจญภัยของเหล่าผองเพื่อนที่เป็นสัตว์ประจำท้องถิ่นเช่น งูไทปัน แมงป่อง แมงมุง กิ้งก่า และหมีโคอาล่า ชอบการผจญภัยตั้งแต่ลงจากหลังคา ว่ายน้ำ ขับรถดับเพลิง ขึ้นรถโรงเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย ทุกอันสนุก ทำลุ้นมันไปด้วย โดยแต่ละตัวต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายดินแดนเอาท์แบ็ค ใจกลางประเทศและหลบหนีจากการจับกุมของแชซ เกิดเป็นมิตรภาพอันงดงาม นอกจากนี้ยังพูดถึงสัตว์ท้องถิ่นตัวอื่น ๆ เช่น คางคกยักษ์ ตุ่นปากเป็ด (รูปร่างเหมือนเป็ดผสมบีเวอร์) จิ้งโจ้ ควอกกา (quokka) แทสเมเนียนเดวิล และอื่น ๆ อีกมากมาย ดูไปนอกจากฟิน ฟีลกู๊ดกับมิตรภาพของเหล่าสัตว์เพื่อนซี้แล้ว ยังได้ความรู้อีกด้วย
เป็นหนังอนิเมชั่น ที่ดูแล้วฮากระจาย
ชอบที่เป็นหนังสบาย ๆ เบา ๆ ไม่เครียด หัวเราะได้ทั้งเรื่อง สอดแทรกความรู้ด้วยมุขตลก เช่นค้างคาวกินเลือดเฉพาะสัตว์เลือดอุ่น หรือ ด้วงมูลกินขี้วัว หนังเล่าออกมาได้สนุก และจะเป็นความรู้ที่เด็ก ๆ หรือผู้ใหญ่ดูแล้วก็จะจำไม่ลืม ความน่ารักของตัวการ์ตูนก็เรียกเสียงฮาเช่นกัน อย่างตัวแมงมุมที่ชอบเต้นเวลาเจอสาว หรืออย่าง พริตตี้บอยที่สนใจแต่ตัวเอง บอกว่าตัวเองเป็นราศรีมังกรเลยไม่เหมือนคนอื่น หรืออย่างไนเจลที่แสนไร้เดียงสาที่ไม่รู้จักว่าดาวคืออะไร ซีนแอ็คชั่นก็ขำอย่างบันไดงู พายเรือ น้ำจากชักโครก รถดับเพลิง มอเตอร์ไซต์ เรียกว่าความฮาแบบจัดมาเน้น ๆ ชอบพล็อตสมาคมลับอัปลักษณ์ (U.S.S – Ugly Secret Socity) กับประโยคเด็ด
“I’ am Ugly, You’re Ugly. We should all be this ugly. Ugly is the new beautiful!”
ฉันน่าเกลียด เธอน่าเกลียด เราก็น่าเกลียดแบบนี้แหละ มันคือความงามรูปแบบใหม่
หนังยังให้ข้อคิดดี ๆ มากมาย เช่นความงามที่แท้จริงอยู่ข้างในไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก, ครอบครัวคือสิ่งสำคัญ, ความสามัคคีทำให้บรรลุเป้าหมาย, น้ำใจหาได้ไม่ยาก เรียกว่าเป็นอนิเมชั่นน้ำดีแห่งปีจริง ๆ ลองไปรับชมกันดู รับรองหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อมยิ้ม อบอุ่นหัวใจทั้งเรื่อง
ภาพสวยทั้งเรื่อง ทั้งวิวเอาท์แบ็ค ในเมือง ตัวการ์ตูนสัตว์ต่าง ๆ
บอกเลย Back to the Outback เป็นอนิเมชั่นที่ดูแล้วไม่ผิดหวังจริง ๆ เพราะนอกจากเนื้อเรื่องดี มีความฮา ตัวละครน่ารักแล้ว ภาพยังสวย เนียน เหมือนจริง ออกแบบดีไซน์ตัวการ์ตูนแต่ละตัวออกมาได้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ในความน่าเกลียดก็ซ่อนมุมอ่อนโยนไว้ในคาแรกเตอร์ น่ารักมาก ๆ ภาพวิวทิวทัศน์ก็สวยงาม ให้ความรู้สึกได้สัมผัสธรรมชาติ อย่างฉากไล่แสงพระอาทิตย์ตก หรือฉากถ้ำ ฉากเอาท์แบ็ค ภาพเนียนสวยสมจริงทั้งนั้น
ให้คะแนน 8/10
Back to the Outback (2021) เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสำหรับครอบครัว ที่เด็ก ๆ ดูแล้วต้องชอบแน่นอน ส่วนผู้ใหญ่ก็ดูได้ไม่เสียเวลา แถมชอบอีกต่างหาก เป็นอนิเมชั่นที่ภาพสวยทั้งวิวทิวทัศน์และตัวละคร ส่วนตัวช่วงแรกแอบเผลอหลับนิดนึง (ตอนแมดดี้ร้องเพลงกล่อมก่อนนอน อินไปหน่อย) แต่หลังจากนั้นหลับไม่ลงอีกเลย เนื้อเรื่องสนุก อบอุ่นหัวใจ และมีซีนสนุก ๆ มัน ๆ ฮากระจาย อยู่เยอะ อนิเมชั่นภาพสวย ตัวละครน่ารัก เพลงประกอบมีหลายเพลงเลย เพราะ ๆ ทั้งนั้น ให้คะแนน 8/10 ใครกำลังหาภาพยนตร์สำหรับครอบครัว และเด็ก ๆ เพื่อรับชมช่วงวันหยุดยาว แนะนำเรื่องนี้เลย สามารถรับชมแบบพากย์ไทยได้ทาง Netflix
ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติม : รีวิวหนัง