รีวิวหนัง ภาพยนตร์ | The Flash : เดอะ แฟลช
- admin
- มิถุนายน 6, 2023
- 12:50 am
รีวิวหนัง The Flash : เดอะ แฟลช
“The Flash” เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ อเมริกันที่ ฉายโดยสร้างจากตัวละคร DC Comics ที่มีชื่อเดียวกัน ผลิตโดย Warner Bros. Pictures , DC Studios , Double Dream และ Disco Factory และกำหนดให้จัดจำหน่ายโดย Warner Bros. Pictures ตั้งใจให้เป็นภาคที่ 13 ใน DC Extended Universe (DCEU) ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย “Andy Muschietti”
จากบทภาพยนตร์โดย “Christina Hodson” และแสดงโดย Ezra Miller ในบท Barry Allen / The Flash ร่วมกับ Sasha Calle , Michael Shannon , Ron Livingston , Maribel Verdú , Kiersey Clemons , Antje Traue และ Michael Keaton ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แบร์รี่เดินทางย้อนเวลากลับไปเพื่อป้องกันการตายของแม่ของเขา ซึ่งนำมาซึ่งผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เรื่องย่อ The Flash
แบร์รี่ อัลเลน เดอะแฟลชเดินทางย้อนเวลากลับไปเพื่อป้องกันการตายของแม่ของเขา ซึ่งกักขังเขาไว้ในโลกความจริงทางเลือกที่ไม่มีเมตาฮิวแมน แบร์รี่ขอความช่วยเหลือจากตัวตนที่อายุน้อยกว่าของเขาแบทแมน ที่แก่กว่า และซูเปอร์เกิร์ ลชาว คริปโตเนียนเพื่อช่วยโลกนี้จากนายพลซอด ที่ได้รับการฟื้นฟู และกลับสู่จักรวาลของเขา
จากเนื้อเรื่อง The Flash
ในภาพยนตร์หนังสือการ์ตูน เมื่อพูดถึงพลังพิเศษของฮีโร่ เช่น การบิน การยกของ การไล่กระสุน ความไม่ย่อท้อของโล่หรือค้อน ผู้ชมมักจะมองจากภายนอกเข้ามาเสมอ แต่ใน “The Flash” เมื่อ ตัวละครชื่อเรื่องพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วของสายฟ้าผ่าที่ร้อนแรงที่หลังของเขา หรือลอยผ่านอากาศด้วยการเคลื่อนไหวที่ช้าลงจนเกินเวลากระสุนที่เสี้ยววินาทีดูเหมือนจะคงอยู่ตลอดไป
ในช่วงต้น แบร์รี อัลเลน (Barry Allen) นักนิติเคมีในกรมตำรวจเซ็นทรัลซิตี้ ได้รับโทรศัพท์จากอัลเฟรด (Alfred) แจ้งให้เขาทราบว่ามีการโจมตีที่กำลังดำเนินอยู่ และไม่มีใครอื่น สมาชิก Justice League โดยเฉพาะ แบทแมน (Batman) คอยให้ความช่วยเหลือ แบร์รี่ (Barry) สวมหมวกกันความร้อนคริสตัลสีแดงและสูทเข้ารูป วิ่งซูมไปจนถึงเมืองก็อธแธม
ซึ่งเขาเผชิญหน้ากับโรงพยาบาลสูงระฟ้าที่ปีกด้านตะวันออกกำลังจะถล่ม ทิ้งสถานรับเลี้ยงเด็กที่เต็มไปด้วยเด็กแรกเกิดร่วงหล่นกลางอากาศ ซึ่งเขาช่วยชีวิตพวกเขา คว้าลูกอมเติมพลังและเบอร์ริโต มิลเลอร์ (Miller) คือเดอะแฟลช เพื่อนเก่าของแบทแมน ซูเปอร์แมน Suicide Squad และ Justice League ทั้งสองเวอร์ชั่น แต่เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) ไม่เคยทำเอซรา มิลเลอร์ได้เต็มที่เหมือนที่พวกเขาทำใน The Flash
ด้วยคิ้วเข้มที่เข้ารูปและริมฝีปากที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยม นักแสดงจึงเป็นตัวแบบของกล้องที่ชวนหลงใหล เหมือนกับที่จิมมี่ ฟอลลอน (Jimmy Fallon) ในวัยเยาว์ประกบกับบ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) ในวัยเยาว์ แต่เป็นเสียงที่ทำให้คุณใน The Flash มิลเลอร์เป็นคนดื้อรั้น ฉุนเฉียว โมโหง่าย และไม่อาจต้านทานได้ เช่นเดียวกับแอนดี้ โคเฮน (Andy Cohen) ที่มีความวิตกกังวลสูง
แค่ดูแบร์รี่สั่งแซนวิชเนยถั่วอย่างประณีตในฉากเปิดเรื่องด้วยความกระวนกระวายใจที่หิวโหยของเขาและเอลาน (élan) ปีศาจความเร็วที่ประหม่าก็ชวนให้หลงใหลแล้ว ด้วยข้อยกเว้นที่เป็นไปได้ของเดดพูล (Deadpool) ไม่มีซูเปอร์ฮีโร่ DC หรือ Marvel ที่ตรงไปตรงมาเหมือนลูกศรที่แสดงความสามารถทางจิต
ความสามารถด้าน Speedster ของ The Flash นั้นเกี่ยวกับสัมพัทธภาพของเวลา ดังนั้นจึงรู้สึกว่า The Flash นั้นเริ่มต้นจากการรู้จักเพลง “Back to the Future” แบร์รี่ นอร่า แม่ที่รักของเขา ซึ่งถูกฆาตกรรมหลังจาก พ่อของเขาเฮนรี่ออกไปซื้อมะเขือเทศบดหนึ่งกระป๋อง เมื่อพ่อของเขากลับมา เขาถูกจับและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมนอร่า
ตอนนี้เขากำลังอุทธรณ์โทษจากคุก ผิดหวังกับภาพจากกล้องวงจรปิดของซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ควรให้คำแก้ตัว แต่เฮนรี่ไม่เคยมองกล้อง แบร์รี่เร่งความเร็วเข้าไปในจักรวาล เคลื่อนที่เร็วมากจนย้อนเวลากลับไปได้ เขาตัดสินใจว่าขึ้นอยู่กับเขาที่จะเขียนสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ Butterfly effect นั่นคือปรากฏการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงที่เล็กที่สุดสามารถเปลี่ยนเส้นทางของประวัติศาสตร์ได้ ดังนั้นเขาจึงช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่นั่นจะยุ่งเหยิงกับความเป็นจริง
ทันใดนั้น มีแบร์รี่สองคน คนแรกย้อนเวลากลับไป และอีกคนอายุ 18 ปีเป็นน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย ผมยาว มีทัศนคติที่ร้ายกาจและไม่มีพลังวิเศษ เขายังไม่เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงที่ฟ้าผ่าลงมาที่ชั้นวางบีกเกอร์ของห้องปฏิบัติการ และทำให้แบร์รี่ไฟฟ้าช็อตระหว่างพิธีบัพติศมาของสารเคมี และทันใดนั้นโลกก็เปลี่ยนไปด้วยสายวัฒนธรรมป๊อปที่ไขว้กัน
ดังนั้นดาราของ “Back to the Future” ในตอนนี้จึงเป็นเอริค สโตลต์ซ (Eric Stoltz) แบร์รี่พยายามทำให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นและประสบความสำเร็จ ประมาณนั้น แบร์รี่ กลายเป็นเดอะแฟลช แบร์รี่โซด (Zod) ผู้แก่สูญเสียพลังของเขาโดยสิ้นเชิง
มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นใน The Flash และในขณะที่มันเป็นหนังสือการ์ตูนที่ให้ความบันเทิงซึ่งเต็มไปด้วยความกล้าหาญและตัวตนที่ย้อนเวลา มิลเลอร์ ผู้วางแนวทางการประนีประนอมในทุกแนว เป็นนักแสดงที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเล่นซูเปอร์ฮีโร่จอมเหวี่ยงคนนี้ เมื่อแบร์รี่สองคน ซึ่งตอนนี้เป็นทีม แม้ว่าจะเป็นคนเดียวกันก็ตาม บุกเข้าไปในคฤหาสน์เวย์นเพียงเพื่อจะพบว่าบรูซ เวย์น ซึ่งเล่นใน Multiverse Strand
ปัญหาของ The Flash คือในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินไปข้างหน้า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะแสดงความขี้เล่นของ Back to the Future น้อยลง และการให้ความสำคัญในตนเองของภาพยนตร์ โดยรวบรวมตัวละครและธีมไปพร้อมกันคารา ซอร์-เอล (Kara Zor-El) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Supergirl!
แบร์รี่ที่แก่กว่ากำลังฟื้นพลังวิเศษ และตอนนี้โซดต้องการ DNA ของ Supergirl เพื่อสร้าง Krypton ขึ้นมาใหม่ ความต่อเนื่องของกาลอวกาศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นถึงบุคลิกของเอซรา มิลเลอร์เมื่อดำเนินเรื่องไป การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่กับนายพลโซดด้วยเครื่องบินรบพลีชีพ ควันดำที่พวยพุ่งขึ้นจากพื้นดิน เสียงที่ดังเกินไปและความโกรธเกรี้ยว ในขณะที่เอซรา มิลเลอร์นำมา แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า และเราก็เช่นกัน
The Flash ของ DC ยอดเยี่ยมมาก ลืม DC ไปได้เลย เป็นการสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมทั้งงานภาพ แนวความคิด บทบาทของ Barry Allen ทั้งสองคนก็ทำได้ดีมาก ฉากสะเทือนอารมณ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา การเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ ฉากแอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยม นักแสดงที่ยอดเยี่ยม รายละเอียดเนิร์ดมากมาย มีฉากว้าวและชวนลุ้นมากมายที่แฟน DC จะต้องหลงรัก เรื่องราวที่เชื่อมระหว่าง DCEU เก่าและใหม่ คะแนน 9/10
รับชมตัวอย่างหนัง : The Flash : เดอะ แฟลช
ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติม : รีวิวหนัง
รีวิวหนังใหม่เรื่องอื่นๆ : THE BOOGEYMAN
แนะนำเว็บดูหนังออนไลน์ฟรี : doofree4u.com
